รู้จักเฉิงตูแบบเจาะลึก – เมืองหลวงแห่งแพนด้าและอาหารสุดจัดจ้าน!
สารบัญ
รู้จักเฉิงตูแบบเจาะลึก – เมืองหลวงแห่งแพนด้าและอาหารสุดจัดจ้าน!
การแนะนำ
เฉิงตู: เมืองหลวงแห่งแพนด้า
เยี่ยมชมศูนย์อนุรักษ์แพนด้า: ประสบการณ์สุดน่ารักที่ไม่ควรพลาด
อาหารเสฉวน: ความจัดจ้านที่ต้องลองสักครั้งในชีวิต
- กระเพาะหมูตุ๋นพริก(Fuqi Feipian) – เมนูคู่รักในตำนาน
- ปลาในซอสพริกเสฉวน(Shui Zhu Yu) – ความเผ็ดที่ละลายในปาก
- เส้นบะหมี่ราดซอสหมูเผ็ด(Zajiang Mian) – ความกลมกล่อมของบะหมี่และซอสเนื้อ
- หมูสามชั้นสไลด์บางๆ(Hui Guo Rou) – หมูสามชั้นผัดรสเด็ดที่ต้องลอง
- ไก่สามกลิ่น(San Bei Ji) – ความหอมที่แฝงด้วยรสเผ็ดอ่อน
- หมูเปรี้ยวหวานสไตล์เสฉวน(Tang Cu Li Ji) – รสชาติที่ลงตัวของหวานและเผ็ด
- ปลากระพงนึ่งซอสพริก(Qiang Wei Yu) – ความนุ่มละมุนในซอสเผ็ดร้อน
- บะหมี่เย็นซอสเผ็ด(Liang Mian) – บะหมี่เย็นคลายร้อนแบบจัดจ้าน
- ไส้กรอกเสฉวน(Laziji) – รสชาติเผ็ดร้อนจากเครื่องเทศ
- เนื้อวัวตุ๋นพริกเสฉวน(Sichuan Braised Beef) – เนื้อนุ่มละมุนที่ซึมซับรสเผ็ด
สรุปแล้ว
การแนะนำ
เฉิงตู เมืองหลวงของมณฑลเสฉวน เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในฐานะศูนย์กลางของ “แพนด้ายักษ์” และ “อาหารเสฉวน” ที่รสชาติเผ็ดร้อนและจัดจ้าน เมืองนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์ทั้งในด้านวัฒนธรรมและธรรมชาติ ทำให้ผู้ที่มาเยือนได้สัมผัสถึงความน่ารักของแพนด้าและความหลากหลายของอาหารพื้นเมืองได้อย่างเต็มอิ่ม ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปสำรวจความมหัศจรรย์ของเฉิงตู ทั้งในด้านการอนุรักษ์แพนด้าและการลิ้มลองอาหารท้องถิ่นที่โดดเด่นแบบเจาะลึก พร้อมเคล็ดลับสำหรับการท่องเที่ยวที่คุณไม่ควรพลาด!
เฉิงตู: เมืองหลวงแห่งแพนด้า
เมื่อพูดถึงเฉิงตู สิ่งที่ไม่ควรพลาดและเป็นที่รู้จักมากที่สุดคือ แพนด้ายักษ์ สัตว์สัญลักษณ์แห่งมณฑลเสฉวนและของประเทศจีน ด้วยความน่ารักและลักษณะนิสัยที่ไม่เหมือนใคร ทำให้แพนด้ากลายเป็นที่รักของผู้คนทั่วโลก เฉิงตูเป็นที่ตั้งของ ศูนย์วิจัยและอนุรักษ์แพนด้ายักษ์เฉิงตู (Chengdu Research Base of Giant Panda Breeding) ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญที่ทำหน้าที่อนุรักษ์และเพาะพันธุ์แพนด้ายักษ์ พร้อมทั้งทำการวิจัยเพื่อการดูแลและฟื้นฟูประชากรแพนด้าในธรรมชาติ
ศูนย์วิจัยและอนุรักษ์แพนด้าแห่งนี้เริ่มก่อตั้งในปี ค.ศ. 1987 โดยมีพื้นที่กว่า 200 เฮกตาร์ ถูกออกแบบมาให้ใกล้เคียงกับสภาพแวดล้อมธรรมชาติของแพนด้าเพื่อให้พวกมันสามารถดำรงชีวิตได้อย่างอิสระ ที่นี่จึงเต็มไปด้วยป่าไผ่ สวนขนาดใหญ่ และแหล่งน้ำที่เหมาะสมกับแพนด้า ศูนย์แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้พบกับแพนด้าอย่างใกล้ชิด แต่ยังทำหน้าที่เป็นศูนย์วิจัยและการศึกษาเกี่ยวกับการอนุรักษ์สัตว์ป่าและระบบนิเวศของภูมิภาคเสฉวน
เยี่ยมชมศูนย์อนุรักษ์แพนด้า: ประสบการณ์สุดน่ารักที่ไม่ควรพลาด
การมาเยือนศูนย์อนุรักษ์แพนด้าเฉิงตูเป็นโอกาสที่ดีในการสัมผัสกับความน่ารักของแพนด้าในถิ่นที่อยู่ของพวกมันอย่างใกล้ชิด นักท่องเที่ยวสามารถชมแพนด้าเดินเล่น นอนกลิ้งไปมาบนกองไผ่ หรือแม้แต่เล่นซนกับแม่แพนด้าได้ในบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ ศูนย์วิจัยแห่งนี้แบ่งออกเป็นหลายโซน เช่น โซนอนุบาลแพนด้าน้อย โซนเพาะพันธุ์ และโซนวิจัยพฤติกรรม ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้และเข้าใจถึงการดูแลแพนด้าได้อย่างลึกซึ้ง
ยิ่งไปกว่านั้น ภายในศูนย์ยังมีพิพิธภัณฑ์แพนด้าที่แสดงข้อมูลเกี่ยวกับวงจรชีวิต การผสมพันธุ์ และการอนุรักษ์แพนด้าอย่างละเอียด นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงสื่อมัลติมีเดียที่แสดงถึงความพยายามของนักอนุรักษ์และนักวิจัยในการดูแลแพนด้าให้คงอยู่ต่อไปในอนาคต นักท่องเที่ยวยังสามารถเข้าร่วมโปรแกรมอาสาสมัครเพื่อช่วยดูแลแพนด้าได้ โดยมีกิจกรรม เช่น การทำความสะอาดกรง การเตรียมอาหาร หรือแม้แต่การช่วยดูแลแพนด้าน้อยในศูนย์อนุบาล
อาหารเสฉวน: ความจัดจ้านที่ต้องลองสักครั้งในชีวิต
หากพูดถึงเฉิงตู จะไม่พูดถึงอาหารเสฉวนก็คงไม่ได้ อาหารเสฉวนมีชื่อเสียงไปทั่วโลกในด้านรสชาติที่เผ็ดร้อนและกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ความพิเศษของอาหารเสฉวนอยู่ที่การใช้ พริกเสฉวน (hua jiao) ซึ่งมีลักษณะพิเศษคือทำให้ลิ้นรู้สึกชาและมีรสเผ็ดซ่าที่ไม่เหมือนใคร รสชาติที่ได้จึงมีความซับซ้อนและหลากหลาย ทำให้ผู้ที่ได้ลิ้มลองต่างติดใจและอยากกลับมาชิมอีกครั้ง
สำหรับอาหารเสฉวนที่ต้องลองเมื่อมาเยือนเฉิงตู ไม่ได้มีเพียงแค่หม่าล่าหรือเต้าหู้มาโผเท่านั้น แต่ยังมีเมนูพื้นบ้านอื่นๆ ที่มีความโดดเด่นและเป็นที่ชื่นชอบของชาวท้องถิ่นอีกด้วย เราได้รวบรวมเมนูที่ห้ามพลาดและสามารถพบได้เฉพาะในเฉิงตูเท่านั้น!
1. กระเพาะหมูตุ๋นพริก (Fuqi Feipian) – เมนูคู่รักในตำนาน
กระเพาะหมูตุ๋นพริก หรือที่เรียกว่า fuqi feipian แปลว่า “จานของคู่รัก” เมนูนี้มีชื่อเรียกเช่นนี้เนื่องจากสามีภรรยาคู่หนึ่งเป็นผู้คิดค้นขึ้นในสมัยโบราณ โดยนำกระเพาะหมู เนื้อวัว และเครื่องในมาต้มกับพริกและสมุนไพรจนได้รสชาติเข้มข้น จากนั้นนำมาฝานเป็นชิ้นบางๆ ราดด้วยซอสพริกและน้ำมันงา ทำให้ได้รสชาติเผ็ด หอม และกรอบนุ่มในเวลาเดียวกัน เมนูนี้มักถูกเสิร์ฟเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยหรือของทานเล่น และเป็นที่นิยมในหมู่คนท้องถิ่นอย่างมาก
เคล็ดลับ: ควรทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ หรือเส้นบะหมี่ เพื่อเพิ่มความกลมกล่อมและช่วยลดความเผ็ดร้อน
2. ปลาในซอสพริกเสฉวน (Shui Zhu Yu) – ความเผ็ดที่ละลายในปาก
ปลาในซอสพริกเสฉวน หรือ shui zhu yu เป็นเมนูที่ประกอบด้วยปลาสดที่ถูกต้มในซอสพริกที่ร้อนจนเดือด ราดด้วยพริกแห้งและพริกเสฉวนจนเต็มชาม น้ำซุปมีสีแดงเข้มและเต็มไปด้วยเครื่องเทศที่ทำให้ได้กลิ่นหอมกรุ่น รสชาติของปลาจะนุ่มละลายในปาก แต่ยังคงความเผ็ดและซ่าอย่างลงตัว เมนูนี้ถือเป็นตัวแทนของความเผ็ดร้อนและความหอมของเครื่องเทศเสฉวนได้เป็นอย่างดี
เคล็ดลับ: เมนูนี้ควรทานทันทีหลังจากเสิร์ฟเพื่อให้ได้รสชาติที่สดใหม่ของเนื้อปลาและความเผ็ดที่เข้มข้นจากซอส
3. เส้นบะหมี่ราดซอสหมูเผ็ด (Zajiang Mian) – ความกลมกล่อมของบะหมี่และซอสเนื้อ
Zajiang Mian เป็นเมนูบะหมี่เสฉวนที่ไม่เหมือนใคร ประกอบด้วยเส้นบะหมี่เหนียวนุ่ม ราดด้วยซอสหมูบดที่ผัดกับพริกและเต้าเจี้ยว ปรุงรสด้วยพริกเสฉวนและซอสถั่วเหลือง เมื่อนำเส้นมาคลุกเคล้ากับซอสจะได้รสชาติที่เข้มข้น เผ็ด และเค็มหวานอย่างลงตัว
4. หมูสามชั้นสไลด์บางๆ (Hui Guo Rou) – หมูสามชั้นผัดรสเด็ดที่ต้องลอง
Hui Guo Rou หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Twice-Cooked Pork” เป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารเสฉวนยอดนิยม หมูสามชั้นถูกนำไปต้มครั้งแรกในน้ำเดือดเพื่อให้ไขมันละลายและเนื้อนุ่ม จากนั้นจึงนำมาผัดครั้งที่สองกับซอสเผ็ดสูตรพิเศษของเสฉวน ซึ่งประกอบด้วยพริกเสฉวน (hua jiao) น้ำมันพริก เต้าเจี้ยว (doubanjiang) และกระเทียมสด ผัดจนหมูสามชั้นมีสีแดงเข้มและเคลือบซอสเผ็ดอย่างสวยงาม เมนูนี้มีรสชาติกลมกล่อม เผ็ดร้อน และหอมกรุ่น เมื่อนำไปทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ หรือผักสดจะช่วยเพิ่มความอร่อยได้อย่างดีเยี่ยม
เคล็ดลับ: ควรเลือกหมูสามชั้นที่มีชั้นไขมันน้อยและเนื้อมากเพื่อให้ได้รสชาติที่สมดุล และทานทันทีเมื่อเสิร์ฟร้อนๆ เพื่อความอร่อยที่เข้มข้นและกลิ่นหอมของเครื่องเทศที่กระจายอยู่ในจาน
5. ไก่สามกลิ่น (San Bei Ji) – ความหอมที่แฝงด้วยรสเผ็ดอ่อน
San Bei Ji หรือ “Three-Cup Chicken” เป็นเมนูไก่สไตล์เสฉวนที่ขึ้นชื่อเรื่องความหอมและรสชาติเข้มข้น ชื่อของเมนูนี้มาจากส่วนผสมหลัก 3 ชนิด ได้แก่ น้ำมันงา ซอสถั่วเหลือง และเหล้าจีน ซึ่งถูกนำมาผสมและเคี่ยวกับเนื้อไก่จนซึมซับรสชาติได้อย่างเต็มที่ เมื่อเคี่ยวจนเนื้อไก่นุ่มและเคลือบด้วยซอสข้นแล้ว จึงใส่กระเทียมและพริกเสฉวนลงไปผัดเพิ่มเพื่อให้มีกลิ่นหอมที่เย้ายวน เมนูนี้มีรสชาติหวานเค็มและเผ็ดอ่อนๆ แต่หอมกรุ่นด้วยน้ำมันงาและเหล้าจีน ทำให้เป็นเมนูที่น่าลิ้มลองและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
เคล็ดลับ: ควรเสิร์ฟในหม้อดินร้อนๆ พร้อมกับข้าวสวย เพื่อให้ได้กลิ่นหอมที่กระจายไปทั่วและเนื้อไก่ที่นุ่มจนละลายในปาก
6. หมูเปรี้ยวหวานสไตล์เสฉวน (Tang Cu Li Ji) – รสชาติที่ลงตัวของหวานและเผ็ด
เมนูหมูเปรี้ยวหวานนี้แตกต่างจากหมูเปรี้ยวหวานทั่วไปที่คุณเคยลิ้มลอง ด้วยการผสมผสานความเผ็ดของพริกเสฉวนและความเปรี้ยวหวานจากซอสน้ำส้มสายชูดำและน้ำตาลทรายแดง หมูถูกนำไปทอดจนกรอบนอกนุ่มใน จากนั้นนำมาผัดกับซอสสูตรพิเศษที่ให้รสชาติเปรี้ยวหวานเผ็ดเล็กน้อยและมีกลิ่นหอม เมนูนี้เป็นที่นิยมในเฉิงตูเนื่องจากรสชาติที่กลมกล่อมและเนื้อสัมผัสที่กรอบนอกนุ่มใน เป็นการผสมผสานที่ลงตัวและเหมาะสำหรับทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ หรือเส้นบะหมี่
เคล็ดลับ: ควรเลือกหมูส่วนที่มีเนื้อและไขมันสมดุล เพื่อให้เนื้อหมูมีความนุ่มและกรอบในเวลาเดียวกัน
7. ปลากระพงนึ่งซอสพริก (Qiang Wei Yu) – ความนุ่มละมุนในซอสเผ็ดร้อน
Qiang Wei Yu หรือ “ปลากระพงนึ่งซอสพริก” เป็นเมนูที่แสดงถึงความสามารถในการปรุงอาหารทะเลของชาวเสฉวน ปลากระพงสดๆ ถูกนำมานึ่งในซอสพริกที่ทำจากพริกเสฉวนและสมุนไพรหลายชนิด จนได้เนื้อปลาที่นุ่มละลายในปาก และซอสเผ็ดร้อนที่เข้ากันอย่างดี การนึ่งปลาในซอสที่มีรสเผ็ดและเปรี้ยวเล็กน้อยทำให้ได้รสชาติที่สดชื่น และเนื้อปลายังคงความนุ่มและกลิ่นหอมที่น่ารับประทาน เมนูนี้เป็นที่ชื่นชอบของชาวเฉิงตู เพราะให้รสชาติที่หลากหลายและเข้มข้น
เคล็ดลับ: ควรเลือกปลาสดและนึ่งทันทีหลังจากปรุงซอสเพื่อให้ได้เนื้อปลาที่สดใหม่และรสชาติเข้มข้นจากซอสพริก
8. บะหมี่เย็นซอสเผ็ด (Liang Mian) – บะหมี่เย็นคลายร้อนแบบจัดจ้าน
Liang Mian เป็นบะหมี่เย็นสไตล์เสฉวนที่ได้รับความนิยมในช่วงฤดูร้อน เส้นบะหมี่สดถูกนำมาลวกจนสุกพอดีแล้วแช่ในน้ำเย็นเพื่อคงความเหนียวนุ่ม จากนั้นนำมาคลุกกับซอสเผ็ดที่ประกอบด้วยน้ำมันพริก กระเทียม และถั่วลิสงบด เมนูนี้มีรสชาติที่สดชื่น เผ็ด และเปรี้ยวเล็กน้อยจากน้ำส้มสายชูที่ใส่ลงไปในซอส เหมาะสำหรับทานในวันที่อากาศร้อน เพราะให้ความรู้สึกเย็นสบายและกระตุ้นความอยากอาหารได้เป็นอย่างดี
เคล็ดลับ: ควรเสิร์ฟทันทีหลังจากคลุกซอสเพื่อให้เส้นบะหมี่มีความเหนียวนุ่มและรสชาติเข้มข้นจากซอสเผ็ด
9. ไส้กรอกเสฉวน (Laziji) – รสชาติเผ็ดร้อนจากเครื่องเทศ
Laziji เป็นเมนูที่โดดเด่นด้วยไส้กรอกหมูหรือเนื้อวัวที่ถูกปรุงรสด้วยพริกแห้ง กระเทียม และพริกเสฉวน ผัดในน้ำมันร้อนจนได้กลิ่นหอมกรุ่น ไส้กรอกมีรสชาติเผ็ดเค็มและมีความกรุบกรอบจากการนำไปทอดกรอบก่อนผัด เมนูนี้มีลักษณะเฉพาะตัวที่เป็นเอกลักษณ์ เนื่องจากการใช้พริกแห้งและพริกเสฉวนจำนวนมาก ทำให้ได้รสชาติที่เผ็ดร้อนและหอมกรุ่นจากเครื่องเทศ เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมอย่างมากในเฉิงตู
เคล็ดลับ: ควรทานคู่กับเครื่องเคียง เช่น ผักสดหรือมันฝรั่ง เพื่อเพิ่มความหลากหลายของรสสัมผัสและช่วยลดความเผ็ด
10. เนื้อวัวตุ๋นพริกเสฉวน (Sichuan Braised Beef) – เนื้อนุ่มละมุนที่ซึมซับรสเผ็ด
เนื้อวัวตุ๋นสไตล์เสฉวนเป็นเมนูที่เน้นการใช้เครื่องเทศที่หลากหลายในการปรุง เนื้อวัวถูกนำไปตุ๋นกับพริกเสฉวน ขิง กระเทียม และซอสถั่วเหลือง จนเนื้อนุ่มและซึมซับรสชาติของเครื่องเทศอย่างเต็มที่ เมนูนี้มีกลิ่นหอม เผ็ดร้อน และมีรสเค็มหวานที่เข้ากันได้อย่างลงตัว เนื้อวัวที่นุ่มละมุนทำให้เมนูนี้เป็นที่โปรดปรานของคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวที่ต้องการลิ้มลองรสชาติเข้มข้นของอาหารเสฉวน
เคล็ดลับ: เสิร์ฟเนื้อวัวตุ๋นพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ และผักดองเพื่อช่วยเพิ่มความกลมกล่อมและลดความเลี่ยนจากเนื้อได้อย่างดีเยี่ยม
สรุปแล้ว
เฉิงตูเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทางวัฒนธรรมและความหลากหลายของอาหารท้องถิ่น การมาเยือนที่นี่ไม่เพียงแต่ทำให้คุณได้สัมผัสกับความน่ารักของแพนด้าเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสที่ดีในการลิ้มลองอาหารเสฉวนที่เต็มไปด้วยรสชาติจัดจ้านและความเผ็ดร้อนที่น่าตื่นเต้น
ป้ายกำกับ